ฟันและปากของเราเป็นส่วนที่เราใช้งานบ่อยมาก วันหนึ่งเรานําอาหารและบริโภคของอะไรต่างๆนาๆ เข้ามาในปาก สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้เราต้องแปรงฟันทำความสะอาดฟัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง แต่ก็อาจจะไม่พอสำหรับการดูแลรักษา ปัญหาที่ตามมาหลักๆเลยคือ ฟันผุ หินปูนขึ้นบริเวณซอกฟัน สิ่งที่เกิดขึ้น เพียงสองอย่างนี้ก็สามารถพัฒนาเป็นโรคเหงือกและโรคเกี่ยวกับรากฟันที่ร้ายแรงได้ และการไปพบหมอฟันไป คุณหมอก็จะเริ่มขั้นตอนการตรวจฟันตามนี้ค่ะ
- การตรวจเช็คเรื่องฟันผุ เป็นจุดประสงค์สำคัญมาก เพราะเราไม่สามารถจะตรวจเองได้ในระยะแรกเริ่ม ให้คุณหมอเป็นคนตรวจและถ้าพบปัญหาจะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที ไม่งั้นนะ ผุไปถึงรากฟันละเป็นเรื่องเลยทีนี้
- คราบที่ติดตามฟันเราคือคราบหินปูน ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียที่สะสมกันในนํ้าลายจนกลายเป็นคราบหินปูน แปรงฟันไม่สะอาดก็มีคราบหินปูนขึ้นไวกว่าเดิม เมื่อเราปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมไปขูดหินปูน โรคเหงือกก็จะถามหา สุดท้ายแล้ว ฟันคุณจะไม่เหลือเลยสักซี่ เพราะเป็นโรคปริทันต์ มันจะมีอาการเหงือกบวมแดง สิ่งที่ตามมาเหงือกจะกร่นและ ไม่สามารถยึดฟันไว้ได้ เหอะๆ (คิดแล้วขนลุก)
ข้อดีของการไปพบหมอฟันทุก 6 เดือน
- คุณหมอเช็คสุขภาพฟัน ที่เราอาจจะทำความสะอาดไม่ทั่วถึงได้ เพื่อป้องกันฟันผุเเต่เนิ่น ๆ
- เช็คว่าโรคที่คนไข้เคยเป็น เช่น เคยอุดฟันผุมา หรือเคยมีเหงือกอัพเสบนั้นมีปัญหาตามมาอีกหรือไม่
- พฤติกรรมแบบไทนที่เสี่ยงกับการเป็นโรคในช่องปากบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยง
อาการแบบไหนที่ควรรีบไปพบหมอฟัน
- สังเกตลักษณะฟันว่ามีความผิดปกติ เช่น ฟันเริ่มมีรูสีดำๆ มีคราบหินปูนเกาะหนาตัว
- หลังแปรงฟันเเล้วเริ่มมีเลือดออกตามไรฟัน
- มีอาการปวดฟัน เสียวฟัน
- เริ่มมีกลิ่นปาก
- ฟันเริ่มโยก หรือมีโพรงที่เห็นได้